Kashmir Great Lakes Trek 2019 ( Day 1 )
ตอนแรกก็ไม่ได้กะจะไปนะ แต่พอมิ้นท์เห็นโพสในเฟสบุ้คว่ามีเพื่อนสมัยมหาลัยจะไปเดินเขา เลยมีความคิดที่ว่า 'เออถ้าลองไปเดินดูสักครั้งก็คงดีนะ ไหนๆก็ออกกำลังกายและสร้างกล้ามมาสักพักแล้ว อยากทำอะไรนอกกรอบเดิมๆดูบ้าง' หลังจากมีความคิดนี้ก็ทักเพื่อนไปเลยว่าไปด้วย 555 และหลังจากนั้นก็บอกตามตรงเลยว่าอ่านแบบผ่านๆ ก็อ่านคร่าวๆก่อนว่าทริปนี้เป็นการเดินดู 7 Lakes ในแดน Kashmir
ปกติเป็นคนชอบเดินอยู่แล้ว วันนึง 10 กิโล 20 กิโลสบ๊ายยยยๆ (หราาาาา) และก็เห็นคนไปกันเยอะ ก็จัดไปสิอย่าให้เสีย จากนั้นก็เร่งทำวีซ่าอะไรเสร็จ (ทำซ้ำสองรอบอีกต่างหาก)
ดูวิธีการเตรียมของเดินเขาจาก Youtube ก็พร้อมลุยยยย
ทริปนี้นัดกันแบบงงๆของกลุ่มคนไทย 6 คนมารวมตัวกัน วันแรกรวมตัวกันที่สนามบินสุวรรณภูมิกลางดึกวันที่ 13 ก.ค. พร้อมกับเป้พะรุงพะรังน่าจะเน้นเรื่องของกินกันเป็นหลัก5555 แต่ละคนดูแล้วสภาพที่งัวเงียพร้อมนอนกันเต็มที่ เอาล่ะข้ามไปตอนถึงเลยละกัน
นั่งเครื่อง Spicejet จากสุวรรณภูมิประมาณ 4 ชั่วโมง ไปเปลี่ยนเครื่องที่ New Delhi ซึ่งจะต้องรับกระเป๋าและเปลี่ยน Terminal ด้วย แต่ละ Terminal อยู่ไกลกันมากๆ ใช้เวลาไว้ 45 นาทีในการเดินทางเลย จากนั้นก็นั่งจาก New Delhi ลง Srinagar ถึงประมาณ 10 โมงและกรอกข้อมูลการเดินทางอีกประมาณ 1 ชั่วโมง
ก่อนหน้าที่จะมาเพื่อนมิ้นได้ติดต่อกับไกด์ท้องถิ่นไว้แล้ว เค้าเลยมารับที่สนามบินไปส่งที่บ้านของเจ้าของทัวร์ ทางเจ้าของบ้านก็ทำอาหารไว้รับรองเพื่อเป็นการต้อนรับ (หรือก่อนปล่อยทิ้งบนเขา) มีแป้งFlat bread ทำจาก Wheat, สลัดหัวหอม, แกงไก่ใส่เครื่องเทศ, แกงเครื่องเทศมันฝรั่ง, Daal แล้วก็มีข้าว มื้อแรกก็อร่อยอยู่หรอก 5555 (มันมีประเด็นในวันถัดๆไป)
From Srinagar to Sonamarg: จากนั้นพวกเราก็นั่งรถไปยังแคมป์แรก โดยที่เป็นการเดินทางที่เสียวที่สุดในชีวิต คนขับเป็นคุณลุงหนวดเฟิ้มๆโพกผ้าขาวบนหัวอายุค่อนข้างเยอะนิดนึงแต่การขับรถของอาบังคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ขับๆอยู่บนถนนสวนกัน 2 เลนคันข้างหน้าขับช้าไม่ทันใจอาบังเลย บีบแตรยาววววพร้อมกับหักขวาแบบไม่ลังเล และไม่สนด้วยว่ารถเลนขวาจะมีไหม บอกเลยว่ายิ่งกว่า Fast and Furious แต่ในที่สุดก็ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย5555
หลังจากได้วอมอัพการกระตุ้นจังหวะหัวใจ อาบังก็ได้ปล่อยพวกเราทิ้งไว้กลางถนนพร้อมกับไกด์ท้องถิ่น ที่จะนำพวกเราไปยังที่ตั้งแคมป์แรก โดยที่ต้องแบกเป้และเดินขึ้นเขาประมาณ 15 นาที กว่าจะมาถึงที่ตั้งแคมป์ก็ 4 – 5 โมงเย็นแล้ว จากนั้นก็กางเต้นท์เก็บของ เตรียมตัวสำหรับวันรุ่งขึ้น ยังไม่ทันไรก็ฟ้าครึ้มฝนตก แถมเต้นท์รั่วอีกต่างหาก นี่เลยต้องช่วยลูกหาบกางเต้นท์ใหม่กว่าจะเสร็จก็ทุลักทุเลอยู่พอสมควร
หลังจากกางเต้นท์กันเสร็จก็ได้เวลาถ่ายรูปแล้วสินะ แต่ฟ้าไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่เลย
ครื้มๆเชียวอะแกกก แต่ยังดีที่มีรุ้งกินน้ำให้กำลังใจกันสักหน่อย
อ้อ นอกจากคนไทย 6 คนแล้ว ยังมีคนมาจาก คู่รักไต้หวัน 2 คน หนุ่มสิงคโปร์ 4 คน และหนุ่มอินเดีย 1 คน (น่ารักกันทุกๆคนเลย เดี๋ยวจะเล่าในตอนต่อๆไป)
หลังจากคืนนึงผ่านไปก็ได้เวลาอาหารเช้า มีขนมปังขาวปิ้ง แยมสตอเบอร์รี่ เนย น้ำผึ้ง เนยถั่ว Chaitea ข้าวโอ๊ตต้ม แล้วก็ไข่เจียว (ซึ่งก็เป็นอาหารที่พวกเราได้รับทุกวันตอนเช้าก่อนเดินทาง ช่างน่าเศร้าจริงๆ555)
ทีมที่นำทางก็จะมีจุดขายที่แตกต่างกันออกไป พูดถึงทีมลูกหาบของทางมิ้นท์ดีกว่า บอกเลยว่าทีมนี้เป็นทีมยุคบุกเบิกการเดินเขาที่นี่ เหมือนจะเริ่มต้นตั้งแต่รุ่นคุณปู่ ทีมงานก็จะทำงานแบบคนดั้งเดิม Slow-life ขั้นสุด อาหารเช้ามาค่อนข้างตรงเวลาที่นัดไว้ แต่เวลาออกเดินทางคือ 'ตามใจลูกหาบ' เลยครับท่าน5555 แต่ไม่อยากจะโม้เลยว่าถึงแม้ทีมเราจะออกเดินทางเกือบทีมสุดท้ายทุกวัน แต่ถึงก่อนกำหนดทุกวันเลยนะเอออออ \^o^/
ขอบคุณที่อ่านกันมาถึงตรงนี้น้าาาาา ฝากติดตามตอนต่อๆไปด้วย<3
Kashmir Great Lake Trek 2019 Day 1